ソンクラー 海辺のホテル
ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมบล็อกของฉัน |
夕方にまた出かけることにしてホテルに戻りました。
昨夜の睡眠不足で頭も休息が必要でした。
わたしたちが泊まったホテルはソンクラー県チャラタットビーチの目の前にあるソリスビーチホテルです。
実は、ソンクラーには、ほとんどの人が好んで滞在するもう 1 つの有名なビーチがあります。それは、チャラタット ビーチから歩いてすぐのサミラ ビーチです。
でもサミラビーチエリアには多くの観光客が集まっているようです。そこには古くから営業しているホテルもあるのですがかなり古い感じもあったので代わりにチャラタットビーチ前のホテルを選びました。
こちらには県のさまざまな機関や有名な大学も並んでいてレジデンスタイプのホテルもいくつかあります。
ソリスホテル、もちろんはじめてのホテルですが気に入ったのはまずエントランスです。大邸宅のような大きな二枚のドアがゆっくり開くのです。それも軽く手を振るだけで自動的に内側に開きます。
ロビーやレセプションのスタッフが立ち上がって「こんにちは」とワイ(タイの合掌)で挨拶をしました。
この 2 つの大きなドアを通過すると、宮殿に入っていくお姫様か王族になったような気分になりました。従業員もみんなわたしのことを「マダム」と呼びます。
ロビーエリアは美しく装飾されています。大きなランプがありお花の装飾が効果的に配置されています。ソファーがたくさんあるのでゆっくりくつろぐこともできます。
エレベーターで最上階へ。
予約の時に眺めの良いところを指定していました。
わたしたちの部屋はスーペリアルームで、各フロア・各部屋、海に面した約45度のバルコニーが付いており、どの部屋からも海を含めた周囲の景色を眺めることができます。
わたしたちが宿泊したスーペリアルームは53平米の広さで、ドアを開けると、広くて清潔で美しいので思わず声が出ました。
室内には無料のスナックバーがあり、毎日補充されます。飲料水は 1 日あたり 4 本提供されます (通常、ホテルでは 1 人あたり 1 日につき 1 本のみ提供です)
浴室内は広々とした空間です。洗面台、バスタブ、レインシャワーゾーンもあり、基本的なアメニティも充実しています。そして毎日湯船に浸かるためのパウダーもあります。
バスルームには、小さなタオルが 2 枚、そして大きなバスタオルが やわらかいのとそうでない普通のタイプそれぞれ2 枚用意されています。もちろんタオルは毎日交換され、追加の使用済みアメニティは毎日補充されます。
このホテルの宿泊客に対する細かい配慮に感銘を受けました。このような4つ星ホテルではこれまで経験したことがありません
夕方になりました。
ハズバンドとわたしはホテルから約900メートル離れたセブンイレブンで食べ物とビールを買って部屋で食べようと考えていました。
しかし、わたしたちがセブンイレブンに行ったとき、この支店ではアルコール飲料がまったく販売されていないことを知り非常に驚きました。これはショックでした。飲料の冷蔵庫をあれこれ開いて歩き回りました。すでにアルコール飲料を売ってよい時間です。
店員にたしかめてようやくわかりました。
ここは大学のすぐ近くなのでアルコール飲料は販売していないのです。公的な建物が多くあるエリアだからかもしれません。しかしこれはさらなる驚きでした。バンコクでもこのような規制、自主規制でしょうか、そんな話は知りません。
わたしたちはがっかりしました。夜ゆっくりビールを飲みたかったのです。
ハズバンドは、ぶつぶつ、
「このあたりの学生は自分でコントロールもできないのか。あんまり賢くないのかみんな」
でもこんなこともあろうかとわたしは事前にレストランもチェックしていました。
道路沿いにあるビーチに面したレストランです。
広いお店です。お客さんが多く人気のあるレストランでしょう。
わたしたちは冷房のあるお部屋に入りました。
まず運ばれてきたビールを飲んでいると、お店の照明が消えました。停電です。それほど長くはありませんでしたが料理人は仕事ができなかったようですオーダーが届くまで時間がかかりました。これもおもしろいハプニングでしょう。
今日はどんな日だろう?と思いました。初日だけでもたくさんの物語に出会えました。
食事を終えビーチ沿いの歩道を風に吹かれながらホテルへ戻りました。
長い一日だったような気がします。
今日はゆっくり休みましょう。
↓↓ หากคุณต้องการอ่านภาษาไทย กรุณาคลิ้กที่นี่
โรงแรมที่พวกเราจองไว้
พวกเรากลับมาถึงโรงแรมในเวลาประมาณ 15.30 น. จริงๆแล้วพวกเราอยากไปเที่ยวกันต่อ
แต่ฉันรู้สึกค่อนข้างเหนื่อยเพราะเมื่อคืนแทบจะไม่ได้นอนในรถไฟเลย จึงทำให้สมองของฉันรู้สึกล้าและค่อนข้างมึนงง
อีกอย่าง ฉันไม่ได้มีการเตรียมค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวในจังหวัดปัตตานีมาก่อนหน้านี้ด้วย เพราะเป็นแผนการท่องเที่ยวแบบไม่ทันตั้งตัว
ดังนั้น ฉันจึงเลือกที่จะกลับมาพักที่โรงแรมก่อนจะออกไปเดินเล่นอีกครั้งในตอนเย็น
โรงแรมที่พวกเราพักมีชื่อว่า Solis Beach Hotel @Rajamangala ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าหาดชลาทัศน์ จังหวัดสงขลา
จริงๆแล้วในจังหวัดสงขลามีชายหาดอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงและคนส่วนใหญ่ชอบไปพัก นั่นคือ หาดสมิหลา ซึ่งเดินไปไม่ไกลจากหาดชลาทัศน์
แต่ฉันคิดว่าบริเวณหน้าหาดสมิหลา มีนักท่องเที่ยวพักอาศัยเป็นจำนวนมาก และดูจะมีผู้คนพลุกพล่าน
อีกทั้งโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้หาดสมิหลาเป็นโรงแรมที่เปิดมานาน และดูค่อนข้างเก่า ดังนั้น ฉันจึงเลือกพักที่โรงแรมหน้าหาดชลาทัศน์แทน
ซึ่งบริเวณแถวหน้าหาดชลาทัศน์ นอกจากมีโรงแรมสำหรับพักอาศัยไม่กี่แห่ง ก็ยังเป็นศูนย์รวมของศูนย์ราชการต่างๆและมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสงขลาอีกด้วย
เมื่อพวกเราเดินเข้ามาในบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม ประตูทางเข้าโรงแรมเป็นประตูบานใหญ่เหมือนประตูของคฤหาสน์ซึ่งเปิดได้ 2 บาน
เมื่อจะเข้าประตูบานใหญ่นี้ เราเพียงยกมือขึ้นและโบกมือเล็กน้อย ประตูบานใหญ่ 2 บานก็จะถูกเปิดออกอัตโนมัติ แล้วพนักงานโรงแรมที่หน้าล็อบบี้ก็ลุกขึ้นยืนและกล่าวสวัสดีพร้อมยกมือไหว้
ขณะที่ฉันกำลังก้าวเท้าผ่านเข้าประตูบานใหญ่ 2 บานนี้ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิงที่กำลังเดินเข้าไปในเขตพระราชวัง เพราะพนักงานทุกคนเรียกฉันว่า "คุณผู้หญิง" ด้วยเช่นกัน
ภายในบริเวณล็อบบี้ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม มีโคมไฟขนาดใหญ่ มีโซฟาให้นั่งรอเยอะมาก เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ และมีดอกไม้ประดับไว้อย่างสวยงาม
พวกเราขึ้นห้องพักโดยกดลิฟท์ไปยังชั้นที่พักของพวกเรา ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันได้ระบุกับเจ้าหน้าที่โรงแรมว่าขอเป็นชั้นสูงที่สุดของโรงแรม นั่นคือ ชั้น 6 ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ดี
ห้องพักที่เราจองไว้เป็นห้อง Superior ซึ่งทุกห้องและทุกชั้นจะมีระเบียงห้องพักที่หันหน้าออกไปทางทะเลประมาณ 45 องศา จึงทำให้ทุกห้องมองเห็นวิวโดยรอบรวมทั้งวิวทะเลได้
ห้อง Superior ที่เราพักมีขนาด 53 ตารางเมตร เมื่อฉันเปิดประตูห้องเข้าไป ก็ได้พบกับห้องที่กว้างขวาง สะอาด สวยงาม และกลิ่นหอมมาก
ภายในห้องพักจะมี Snack bar ให้กินฟรีและเติมเพิ่มให้ทุกวัน มีน้ำดื่มให้วันละ 4 ขวด (ซึ่งปกติโรงแรมโดยทั่วไปจะให้ 1 ขวด/1 คน/1 วันเท่านั้น)
ภายในบริเวณห้องน้ำก็กว้างขวาง มีอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ และโซน rain shower ด้วย นอกจากนั้นยังมี Amenities ต่างๆที่เป็นพื้นฐาน และยังมีผงสำหรับแช่ในอ่างอาบน้ำให้ด้วยทุกวัน
ภายในห้องน้ำจะมีผ้าขนหนูผืนเล็กให้ 2 ผืนและผ้าขนหนูผืนใหญ่ให้ 2 ผืนต่อวัน และจะเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวให้ทุกวัน รวมทั้งเติม Amenities ที่ใช้แล้วเพิ่มเติมให้ทุกวันอีกด้วย
ฉันรู้สึกประทับใจในความเอาใจใส่ของโรงแรมแห่งนี้ที่ค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆให้กับแขกที่มาพัก ซึ่งฉันยังไม่เคยเจอในโรงแรมขนาด 4 ดาวเช่นนี้
ในช่วงเย็น ฉันและสามีคิดกันว่าจะออกไปซื้ออาหารและเบียร์ที่ 7-Eleven ที่อยู่ห่างจากโรงแรมไปประมาณ 900 เมตรกันก่อน เพื่อนำมากินกันในห้องพัก
แต่เมื่อเราเดินไปถึง 7-Eleven เราก็รู้สึกแปลกใจและตกใจมาก เพราะว่า 7-Eleven สาขานี้ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ขายเลย ฉันเดินหาตู้เย็นแช่เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อยู่หลายรอบ
แต่พบว่าไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ขายสักตู้ ด้วยความสงสัย เพราะในขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 18.00 น.แล้ว ซึ่งเป็นเวลาที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ได้ตามปกติแล้ว
ฉันจึงเดินไปถามกับพนักงานในร้าน 7-Eleven ว่าที่นี่ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ขายหรอ? พนักงานตอบว่าที่นี่ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์จำหน่าย เพราะว่าตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์ราชการและมหาวิทยาลัย
ฉันถึงกับแปลกใจหนักกว่าเดิมมากๆ เพราะไม่เคยเจอสถานการณ์นี้ทั้งในกรุงเทพฯ และอยุธยามาก่อน สุดท้าย ทั้งฉันและสามีก็รู้สึกผิดหวังอย่างมาก
ยังดีที่ก่อนหน้านี้ฉันเคยหาข้อมูลร้านอาหารบริเวณไม่ไกลจากโรงแรม เป็นร้านอาหารที่อยู่ติดริมถนนที่มองเห็นวิวชายหาดและทะเลได้
เราจึงเดินย้อนกลับไปยังร้านอาหารแห่งนี้ และไปกินอาหารเย็นพร้อมดื่มเบียร์ไปด้วย
แต่เมื่อเราสั่งอาหารเสร็จแล้ว และสั่งเบียร์มาดื่มได้เพียงไม่นาน ไฟในร้านอาหารก็ดับลง จึงมีผลทำให้อาหารที่เราสั่งมาส่งช้ามาก เพราะเมื่อไฟดับ ก็ทำให้แม่ครัวทำอาหารไม่ได้เพราะมองไม่เห็น
สุดท้ายพวกเราใช้เวลากินอาหารประมาณ 2 ชม.เนื่องจากพวกเราต้องรออาหารที่สั่งมาส่งให้ครบก่อน
ฉันคิดว่าวันนี้มันเป็นวันอะไรกันเนี่ย แค่เพียงวันแรกเราก็เจอสารพัดเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย
เมื่อพวกเรากินอาหารเสร็จ เราจึงเดินกลับโรงแรม และนอนพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวออกเที่ยวในวันพรุ่งนี้กันต่อ
テーマ : タイでの生活・暮らし
ジャンル : ライフ