เล่นกลองใน GarageBand สำหรับ iPad

• แตะชื่อของชุดกลองที่ด้านบนสุดของหน้าจอ จากนั้นแตะชุดกลองที่คุณต้องการเล่น คุณยังสามารถปัดซ้ายหรือขวาเพื่อเปลี่ยนไปใช้กลองชุดก่อนหน้าหรือถัดไป

  ชุดกลองอะคูสติกแสดงชุดกลองเสมือนจริงและชุดกลองอิเล็กทรอนิกส์แสดงช่องตารางของแผ่นกลอง

  

  คุณสามารถเข้าถึงชุดกลองอะคูสติกหรือชุดกลองอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยตรงจากหน้าต่างเลือก โดยแตะ กลองอะคูสติก หรือ กลองอิเล็กทรอนิกส์

• แตะกลองบนหน้าจอ (สำหรับชุดกลองอิเล็กทรอนิกส์ แผ่นกลอง)

  กลองบางอย่าง เช่น กลองไฮแฮทและกลองสแนร์จะให้เสียงที่แตกต่างเมื่อแตะในส่วนที่ต่างกัน ในการดูว่าแต่ละส่วนมีเสียงอย่างไร ให้แตะปุ่มข้อมูล เพื่อแสดงเคล็ดลับฝึกสอน กลองบางแบบยังตอบสนองต่อคำสั่งนิ้วอื่นๆ อีกด้วย

  การสัมผัสและการแตะค้างไว้ด้วยสองนิ้ว (หรือมากกว่า) ที่กลองเป็นการเล่นในรูปแบบซ้ำ โดยการปรับระยะห่างของนิ้ว คุณสามารถเล่นซ้ำได้เร็วขึ้นหรือช้าลง เลื่อนนิ้วขึ้นหรือลงทำให้เสียงเล่นซ้ำดังขึ้นหรือเบาลง

1. แตะปุ่มอัด ในแถบควบคุม

2. แตะกลองในชุดกลอง

   คุณสามารถอัดเสียงได้มากกว่าหนึ่งกลองในเวลาเดียวกัน เมื่อตัวชี้ตำแหน่งเริ่มเล่นใหม่ในท่อน คุณสามารถอัดเสียงส่วนอื่นและจะรวมเข้ากับส่วนที่มีอยู่แล้ว คุณสามารถปิดการผสานได้ในตัวควบคุมแทร็ค

3. เมื่อเสร็จแล้ว ให้แตะปุ่มเล่น ในแถบควบคุมเพื่อหยุดอัดเสียง แตะเล่นอีกครั้งเพื่อฟังกรู๊ฟกลอง

โดยปกติ เมื่อคุณแตะแครชบนชุดกลองอะคูสติก กลองเบสจะเล่นพร้อมกับฉาบ คุณสามารถตั้งว่าจะแตะแครช ให้เล่นทั้งสองเสียงหรือเสียงเดียว

1. แตะปุ่มตัวควบคุมแทร็ค ในแถบควบคุม แล้วแตะ การตั้งค่าแทร็ค จากนั้นแตะ การอัดเสียง

2. แตะสวิตช์ “กลองใหญ่กับฉาบ” เพื่อเปิดใช้หรือปิดใช้

คุณสามารถตั้งค่าความไวการสัมผัสสำหรับกลองได้ถึงสี่ระดับ การเพิ่มความไวสัมผัสทำให้เสียงที่ตีดังขึ้นหรือเบาลงซึ่งขึ้นอยู่กับแรงที่คุณใช้ตีกลอง ถ้าคุณปิดความไวการสัมผัส เสียงตัวโน้ตทั้งหมดจะเหมือนกันถึงแม้ว่าจะออกแรงตีกลองมากแค่ไหนก็ตาม

1. แตะปุ่มตัวควบคุมแทร็ค ในแถบควบคุม แล้วแตะ การตั้งค่าแทร็ค จากนั้นแตะ ความไวต่ออัตราเร็ว

2. แตะระดับความไวที่คุณต้องการใช้สำหรับกลอง

1. ปรับเปลี่ยนเสียงกลองที่มีอยู่โดยการหมุนลูกบิดควบคุม (สำหรับชุดกลองอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น)

2. แตะชื่อของชุดกลองที่ด้านบนสุดของหน้าจอ จากนั้นแตะบันทึก

3. ป้อนชื่อสำหรับเสียงแบบกำหนดเอง แล้วแตะเสร็จสิ้น

   ครั้งแรกที่คุณสร้างเสียงแบบกำหนดเอง หมวดหมู่กำหนดเองใหม่จะแสดงขึ้น พร้อมด้วยไอคอนสำหรับเสียงของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนชื่อหรือลบเสียงโดยแตะปุ่มแก้ไข แล้วแตะไอคอน (เพื่อเปลี่ยนชื่อเสียง) หรือวงกลมสีแดง (เพื่อลบเสียง)