หลายคนคงได้ยินกระเทศสวีเดนกันมาบ้าง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เดินทางไปสักที อยากบอกก่อนเลยว่าประเทศสวีเดนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าไปเที่ยวอีกหนึ่งประเทศเลย ด้วยว่าบ้านเมืองเขามีความสงบสุข การใช้ชีวิตของผู้คนที่นั่นก็ดี แถมอาหารยังชั้นเลิศ การจะเดินทางไปประเทศสวีเดน สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ วีซ่าสวีเดน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไป จำเป็นต้องขอวีซ่าสวีเดนก่อนออกเดินทาง วันนี้ เราจะพามารู้จักกับวีซ่าสวีเดนพร้อมวิธีการทำแบบละเอียด
【มีเวลาจำกัด】 ส่วนลด 8% สำหรับ SIM & eSIM ต่างประเทศ 🔥
🎉รวมโปรส่วนลด Trip.com
อัปเดตโปรโมชั่นใหม่ตลอดเวลา อย่าพลาด!!👏
🚍 บัตรโดยสาร
【ส่วนลด 8%】 สำหรับรถไฟสนามบิน รถไฟใต้ดิน รถเช่า รถบัส ฯลฯ 👍
🎡ที่เที่ยวสุดฮิต
【ราคาพิเศษ】ตั๋วที่เที่ยวยอดฮิตทั้งในและต่างประเทศ🎉
มารู้จัก วีซ่าสวีเดน
ก่อนที่จะยื่นวีซ่าสวีเดน สิ่งแรกที่เราต้องทำเลยคือต้องตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นในตัวเองก่อนว่าพร้อมสำหรับการยื่นไหม ยกตัวอย่างเช่น ต้องเป็นคนที่ไม่ถูกคำสั่งศาลให้ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ไม่มีคดีร้ายแรง สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี และต้องเช็กให้ดีว่าวีซ่าที่คุณจะทำนั้นเป็นวีซ่าประเภทอะไร
เพราะก่อนออกเดินทางจำเป็นต้องเลือกประเภทวีซ่าให้ตรงกับการเดินทางของคุณ เพราะจะทำให้สามารถเตรียมเอกสารในการขอวีซ่ากับทางสถานทูตได้ง่ายขึ้น ซึ่งวีซ่าแต่ละประเภท มีดังนี้
- วีซ่าสวีเดนระยะสั้น (วีซ่าประเภท C)
วีซ่าสวีเดนระยะสั้น หรือ วีซ่าเชงเก้นสวีเดน เป็นวีซ่าที่เหมาะกับการเดินทางไปในระยะสั้นๆ ไม่เกิน 90 วัน ซึ่งวีซ่ารูปแบบนี้จะสามารถเดินทางเข้าประเทศอื่นๆ ในกลุ่มเชงเก้นได้ด้วย โดยวีซ่าประเภทนี้จะเหมาะสำหรับ ผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยว, ผู้ที่ต้องการไปเยี่ยมญาติ เพื่อน ที่อาศัยอยู่ที่สวีเดน (สำหรับเคสนี้ จำเป็นต้องใช้หนังสือเชิญของผู้ที่พักอยู่ในสวีเดนด้วย), ผู้ที่ต้องการเดินทางไปทำธุรกิจ ติดต่อทางการค้า ด้วยเช่นกัน - วีซ่าสวีเดนระยะยาว (วีซ่าประเภท D)
วีซ่าสวีเดนระยะยาว สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปที่สวีเดน 90 วันขึ้นไป ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ขอวีซ่าเพื่อไปศึกษาต่อหลักสูตรระยะยาว, ผู้ที่ทำงานที่สวีเดน รวมถึงผู้ที่ต้องการย้ายไปพักกับครอบครัวที่สวีเดน เป็นต้น
การจะขอวีซ่าแต่ละประเภท นอกจากสำหรับแผนของการเดินทางแล้วว่าเป็นแบบระยะสั้นหรือระยะยาว เราควรจะต้องดูก่อนว่า จุดประสงค์หลักในการเดินทางไปที่สวีเดน นั้นคืออะไร บางคน ไปเพื่อจุดประสงค์หลายอย่างเช่น ต้องการไปติดต่อธุรกิจ 5 วัน และอีก 3 วันต้องการท่องเที่ยว การยื่นขอวีซ่าก็ควรจะต้องยื่นในประเภทที่สำคัญที่สุด นั้นก็คือ ยื่นขอวีซ่าธุรกิจนั่นเอง
ต่อไป เราจะพาไปรู้จักประเภทของวีซ่าที่แยกย่อยลงไป พร้อมทั้งขั้นตอนในการสมัครกัน ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร มีเอกสารอะไรบ้าง
เอกสารที่ใช้สำหรับยื่นวีซ่าสวีเดน
หากคุณต้องการเดินทางไปที่ประเทศสวีเดน สิ่งแรกที่ต้องทำนอกจากการตรวจเช็กคุณสมบัติในการยื่นขอวีซ่าแล้ว เรื่องเอกสารก็สำคัญเช่นกัน การเตรียมเอกสารให้ครบและถูกต้อง ทำให้เวลาที่ไปยื่นขอวีซ่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการกลับมาแก้ไขหรือเตรียมเอกสารเพื่อไปยื่นใหม่ หากการยื่นขอไม่ผ่าน ซึ่งเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียมมีดังนี้
- แบบฟอร์มขอวีซ่า กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนยื่นเอกสาร
- เตรียมเอกสารสำคัญประกอบการยื่นขอวีซ่า ดาวน์โหลดและพิมพ์ออกมา ให้ครบถ้วน และติ๊กช่องเอกสารที่คุณเตรียมไว้
- รูปถ่ายสีประกอบการขอวีซ่าสวีเดน ขนาด กว้าง 3.5 ซ.ม. สูง 4.5 ซ.ม. จำนวน 1 ใบ พื้นหลังสีขาว ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน ถ่ายหน้าตรง เห็นใบหน้าชัด ไม่ใส่เครื่องประดับ ไม่สวมแว่น
- หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน ระยะเวลาก่อนหมดอายุไม่น้อยกว่า 3 เดือน นับจากวันที่เดินทางกลับประเทศไทย พร้อมถ่ายสำเนามาด้วย 1 ชุด หากมีหนังสือเดินทางเล่มเก่า ให้นำมาด้วย
- สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) สำเนาใบหย่าร้าง (ถ้ามี)
- หลักฐานทางการเงิน เช่น รายการเดินบัญชีย้อนหลัง ไม่น้อยกว่า 3 เดือน โดยจะต้องมีเงินในบัญชีเพียงต่อการพักอาศัยอยู่ในสวีเดน หรือหนังสือบรับรองจากธนาคาร
- หลักฐานการทำงาน
- หากเป็นงานประจำบริษัทหรือหน่วยงานให้ใช้จดหมายรับรองการทำงานที่ระบุตำแหน่ง เงินเดือน และจำนวนวันที่หยุดงาน
- หากเป็นเจ้าของธุรกิจให้ใช้หนังสือจดทะเบียนธุรกิจหรือหนังสือจดทะเบียนพาณิชย์
- หากเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา ใช้จดหมายรับรองจากสถานศึกษา - สำเนากรรมธรรม์ประกันภัยเดินทาง ที่มีความคุ้มครองในวงเงิน 30,000 ยูโรขึ้นไป
สำหรับผู้ที่ต้องการยื่นวีซ่าสวีเดน สำหรับท่องเที่ยว เตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- หลักฐานการจองโรงแรม ที่พักในประเทศสวีเดน โดยวันพักจะต้องตรงกับวันเกิดนทาง และห้ามยกเลิกการจองโรงแรมจนกว่าวีซ่าจะผ่าน
- หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบิน
- แผนการเดินทาง ระบุรายละเอียดการเดินทางแต่ละสถานที่แบบคร่าวๆ เช่น วิธีการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว เวลาในการเดินทาง เป็นต้น
- ตั๋วเจ้าชมกิจกรรม นิทรรศการ หรือสถานที่ต่างๆ ที่จองไว้เพิ่มเติม (ถ้ามี)
สำหรับผู้ที่ต้องการขอวีซ่าสวีเดน สำหรับเยี่ยมเยือน เตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- แบบฟอร์มการเชิญที่ออกโดยผู้พักอาศัยในสวีเดน
- หลักฐานความสัมพันธ์ระหว่างผู้เชิญและผู้ขอวีซ่า เช่น รูปคู่ ใบทะเบียนสมรส แชท เป็นต้น
- หน้าหนังสือเดินทางของผู้เชิญ กรณีที่เคยเดินทางมาประเทศไทย
สำหรับผู้ที่ต้องการขอวีซ่าสวีเดน สำหรับธุรกิจ เตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- จดหมายเชิญธุรกิจฉบับจริง ที่เชิญโดยคู่ค้าที่ประกอบการอยู่ในประเทศสวีเดน
- ใบรับรองการทำงานที่ออกโดยบริษัท โดยระบุตำแหน่ง เงินเดือน ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน
- ใบเชิญประชุมหรือร่วมงานแสดงสินค้า (กรณีไปร่วมงานแสดงสินค้า)
- Statement ย้อนหลัง 3 เดือน
สำหรับผู้ที่ต้องการขอวีซ่าสวีเดน สำหรับผู้เดินทางที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- ใบสูติบัตรของผู้ขอวีซ่า พร้อมสำเนา
- กรณีที่ไม่ได้เดินทางพร้อมผู้ปกครอง ให้ใช้หนังสือยินยอมจากผู้ปกครองที่ออกโดยหน่วยงานราชการไทย
ค่าธรรมเนียมในการยื่นขอวีซ่าสวีเดน
หลังจากเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องมารู้ว่า ค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่าสวีเดนนั้นมีอะไรบ้าง
- ค่าธรรมเนียมวีซ่าสวีเดน
- ผู้ใหญ่ 80 EUR หรือประมาณ 3,040 บาท
- เด็กอายุ 6-12 ปี 40 EUR หรือประมาณ 1,520 บาท
- เด็กอายุ 0-11 ปี ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมวีซ่าสวีเดน - ค่าบริการของศูนย์รับยื่นวีซ่าสวีเดน VFS Global 760 บาท
- บริการส่ง SMS แจ้งเตือนความคืบหน้าของวีซ่าสวีเดน 70 บาท
- บริการส่งเอกสารคืนผ่าน EMS 260 บาท
- บริการถ่ายเอกสารแผ่นละ 5 บาท
- บริการถ่ายรูป 250 บาท/ชุด
- บริการปริ้นท์เอกสารแผ่นละ 25 บาท
ขั้นตอนขอวีซ่าสวีเดน
การขอวีซ่าสวีเดนจำเป็นต้องทำนัดกับทาง VFS Global เลือกวัน-เวลาที่ต้องการยื่นเอกสารและพิมพ์เอกสารแนบไว้สำหรับวันนัดจริง
- เมื่อถึงวันนัด ให้เดินทางไปยังศูนย์ยื่นวีซ่าสวีเดน
- ยื่นเอกสารทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หากเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยให้ทำการชำระเงิน โดยสามารถชำระได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิต
- ตรวจอัตลักษณ์ส่วนบุคคล ทั้งสแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้า สำหรับผู้ที่ยังไม่ทำวีซ่ามาก่อน
- เมื่อดำเนินการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ให้รอผลจากทางศูนย์ยื่นวีซ่า
หากสถานทูตทำการพิจารณาคำร้องขอวีซ่าเรียบร้อยแล้ว จะทำการส่งอีเมลเพื่อแจ้งผลการยื่นวีซ่าให้ แต่เพื่อความสะดวกสามารถสมัครเพื่อรับ SMS แจ้งผลการขอยื่นวีซ่าได้ และหลังจากผลคำร้องขอวีซ่าออกแล้ว สามารถรับหนังสือเดินทางพร้อมวีซ่าคืนได้ที่ศูนย์ยื่น VFS Global หรือสามารถให้ดำเนินการส่งเล่มหนังสือเดินทางผ่านไปรษณีย์ตามที่อยู่ได้ด้วยเช่นกัน
โดยปกติแล้ว การยื่นขอวีซ่า ต้องดำเนินการขอล่วงหน้าก่อนเดินทางได้ไม่เกิน 180 วัน และหลังจากยื่นขอวีซ่าสวีเดนแล้ว ต้องใช้ระยะเวลาตรวจสอบเอกสารหลังยื่นเรียบร้อยประมาณ 5-7 วัน ถึงจะทราบผล
ผลการขอวีซ่าสวีเดนไม่ผ่าน เกิดจากอะไร?
บางคนดำเนินการเอกสารเรียบร้อย เงินในบัญชีเพียงพอแล้ว แต่ทำไมยังยื่นขอวีซ่าไม่ผ่าน ซึ่งสถานทูตไม่ได้ดูเพียงแค่ว่าคุณมีเงินในบัญชีเพียงพอเท่านั้น แต่ดูไปถึงแหล่งที่มาที่ไปของเงินในบัญชีที่คุณมีด้วย หากเงินในบัญชีที่มีไม่สามารถระบุที่มาที่ไปของเงินได้ หรือเอกสารทางการเงินที่ยื่นนั้นดูไม่สมเหตุสมผล นี่คือเรื่องหลักๆ ที่ทางสถานทูตดู
นอกจากนั้น ก็จะดูรวมไปถึงหน้าที่การงานไม่มั่นคง เอกสารขอวีซ่าไม่ครบ ยื่นขอทำวีซ่าไม่ตรงกับจุดประสงค์ในการเดินทางจริงๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผลการขอวีซ่าสวีเดนไม่ผ่านได้เช่นกัน โดยถ้าเกิดว่ายื่นขอวีซ่าไม่ผ่าน ยังมีวิธีที่จะสามารถยื่นวีซ่าได้ ดังนี้
- ทำเรื่องอุทธรณ์วีซ่าสวีเดน
เพื่อให้สถานทูต พิจารณาคำร้องวีซ่าใหม่อีกครั้ง วิธีนี้จะไม่เสียค่าธรรมเนียมใหม่อีกครั้ง แต่อาจใช้เวลาในการพิจารณานานกว่าเดิม - ทำเรื่องยื่นวีซ่าสวีเดนใหม่
ซึ่งจะเป็นการนับ 1 ของการยื่นคำร้องขอวีซ่าอีกครั้ง ซึ่งวิธีนี้จะใช้ระยะเวลาสั้นกว่า แต่ต้องดำเนินเรื่องเอกสารใหม่ทั้งหมด รวมถึงชำระค่าธรรมเนียมใหม่ทั้งหมด
หากต้องการเดินทางไปยังประเทศสวีเดน แต่กังวลเรื่องการขอวีซ่าสวีเดน ว่ายากไหม ใช้เวลาในการพิจารณานานไหม แนะนำว่า หากเตรียมเอกสารอย่างดี เตรียมตัวดี มีคุณสมบัติครบตามที่สถานทูตกำหนด ก็จะทำการพิจารณาขอยื่นวีซ่าผ่านไปได้ด้วยดีแน่นอน