ตะลุยหิมะเที่ยวฮาร์บิ้นที่จีนสุดฟิน
เที่ยวหมู่บ้านหิมะชมเทศกาลการน้ำแข็งสุดอลัง
งบ 25,000 เอาอยู่เที่ยวเองได้ไม่ยาก
ตอนนี้จีนก็เริ่มจะเปิดฟรีวีซ่าวันที่ 1 มีนาคม หลายๆคนคงมีแพลนจะไปเที่ยวกันอย่างแน่นอน รีวิวนี้เราจะพาเพื่อนไปสัมผัสเที่ยวฮาร์บิ้นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความหนาวเย็นยะเยือกอากาศติดลบถึง 30 องศา หิมะฟูๆขาวๆ ฟลีเค้าเหมือนอยู่ยุโรป พาไปเที่ยวหมู่บ้านหิมะสุดนุ่มฟูเหมือนหลุดมาจากนิทาน ถ่ายรูปเชคอินงานเทศการน้ำแข็งระดับโลกที่ Harbin Ice And Snow World เดินเล่นเที่ยวชมเมืองช็อปปิ้งชิมชิลถนนจงหยาง รับรองเลยว่าเพื่อนจะได้สัมผัสประสบการณ์สุดแสนประทับที่หาไม่ได้จากไทยแน่นอน
📌เราเดินทางเมื่อวันที่ 11-17 มกราคม 2567
📌แพลนเที่ยวฮาร์บิ้น (แพลนการเดินทางเราไม่รวมวันที่เดินทางจาก กทม ไป ฮาร์บิ้นนะคะ เราคัดเฉพาะวันที่ได้เที่ยวจริงเนื่องจากฮาร์บิ้นไม่มีบินตรงต้องต่อเครื่องวันแรกและวันสุดท้ายจะหมดไปกับการเดินทางค่ะเราจะไดเที่ยวจริงแค่ 4 วันเท่านั้น)
◾️Day1
-Volga Manor
-Harbin Ice and Snow World
◾️Day2-Day3 (ระยะเวลาเดินทางจากฮาร์บิ้นไปหมู่บ้านประมาณ 5-6 ชม)
-China Snow town
◾️Day4
-Harbin music park
-โบถส์เซ็นโซเฟีย
-Zaolin Park
-ถนนจงหยาง
📌รายละเอียดค่าใช้จ่ายตลอดทริปต่อคน
-ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ-ฮาร์บิ้น 9,915 บาท
-ค่าที่พักถนนจงหยาง 4 คืนราคา 3,000 บาท (โรงแรม super8)
-ค่าที่พักหมู่บ้านหิมะ 2,200 บาท
-ค่ารถไปกลับหมู่บ้านหิมะประมาณ 980 บาท
-ค่าเข้าหมู่บ้านหิมะพร้อมรถบัส 588 บาท
-ค่าเข้า Ice and snow world 1,608 บาท
-ค่าเข้า Volga Manor 824 บาท
-ค่าแท๊กชี่ตลอดทั้งทริป 1,600 บาท ทั้งทริปเที่ยวในฮาร์บิ้นเรานั่งแต่แท็กชี่ราคา
-ค่ากิน 4,000 บาท (มีกินบุตเฟ่สองมื้อ)
รวมค่าใช้จ่ายตลอดทั้งทริปต่อคน 24,715 บาท
📌 สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปฮาร์บิ้น
-ฮาร์บิ้นไม่มีไฟท์บินตรงจากกรุงเทพต้องไปต่อเครื่องที่จีน
-ช่วงเดือนธันวาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นสถานที่ท่องเที่ยวเยอะและกิจกรรมเยอะ
-อากาศที่ฮาร์บินค่อนข้างหนาวจนถึงหนาวมากอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -20 ถึง -35
-เนื่องจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็นอุปกรณ์กันหนาวจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือถุงมือและหมวกรวมถึงถุงร้อนหากใครที่หนาวมากๆแนะนำให้พกติดตัวไปด้วย
-ที่ฮาร์บิ้นร้านส่วนใหญ่ยังรับเงินสดแต่ถ้าจะให้สะดวกๆแนะนำให้ใช้ Alipay
-สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆในเมืองฮาร์บิ้นสามารถใช้รถไฟฟ้าเดินทางได้ค่ารถไฟฟ้าไม่แพงเริ่มต้นที่ 2 หยวน
-หากใครไม่สะดวกไปกันหลายคนแนะนำให้เรียกใช้แอพแท็กซี่ Didi สามารถใช้ ใช้งานผ่านแอพ Alipay ได้เลยหรือจะเรียกแท็กซี่ทั่วไปก็ได้ราคาเริ่มต้นที่ 8 หยวน
-จากสนามบินเข้าเมืองสามารถใช้บริการรถบัสได้ ราคาคนละ 20 หยวนผ่านเส้นหลักๆอาทิเช่นถนนจงหยาง ส่วนเราไม่ได้ใช้บริการเพราะที่พักเราอยู่ไม่ไกลจากสนามบินมากเราใช้บริการแท๊กชี่แทน
-คนจีนพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้แต่ไม่ต้องกังวลสามารถใช้ Google translate คุยกับเขาได้เค้าน่ารักและพยายามจะช่วยเราตลอด
📌แอพสำคัญที่ต้องมีในโทรศัพท์
-Alipay แอพสำหรับทำธุรกรรมทางการเงินใช้จ่ายเงินค่ารถและทุกๆเราสามารถผูกับบัตรเครดิตหรือบัตรท่องเที่ยวต่างๆได้เลย
-Baidu map เป็นแอพเอาไว้ใช้เดินทางดูสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเหมือนกู้เกิ้ลแมพ แต่แอพเป็นภาษจีนต้องใช้ google transalate เอานะคะ แนะนำให้ค้นหาชื่อสถานที่เป็นภาษาจีนนะคะ
-Didi อันนี้เป็นแอพที่อยู่ใน Alipay อีกทีแอพนี้เอาไว้เรียกแท๊กซี่ค่ะ ราคาไม่แพง ปักหมุดตรงสามารถเทียบทะเบียนรถแท๊กชี่ได้สะดวกใช้ไม่ยากทริคคืออย่าลืมกด เลือกอันที่ requset discount นะคะ
-Trip อันนี้เอาไว้จอง โรงแรม ที่พักหมู่บ้านหิมะเราก็จองในแอพนี้ค่ะ
-Metroman อันนี้เป็นแอพรถไฟเราสามารถดูสถานนี้จุดขึ้นลงได้จากแมพนี้เลยค่ะ
เอาจริงๆฮาร์บิ้นถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจีนที่คนไทยยังไปไม่เยอะมาก เราเลยอยากมาแนะนำให้ทุกคนได้ไปเที่ยวกัน การเดินทางท่องเที่ยวจีนด้วยตัวเองไม่ยากทุกคน คนจีนเฟรนด์ลี่มาก ไม่รอช้าตามเราไปเที่ยวกันเลยดีกว่า
#เที่ยวจีน #ฮาร์บิ้น #บินเที่ยวกับtrip #harbin #trip
travelholicชีวิตติดเที่ยว 6312