วันนี้ Apple ประกาศว่า Self Service Repair จะพร้อมให้บริการในวันที่ 21 มิถุนายนสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 14 และ Mac รุ่นอื่นๆ เพิ่มเติม ได้แก่ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว และ MacBook Pro ที่มีชิป M2 นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา Self Service Repair ได้เปิดโอกาสให้ทุกคนที่มีประสบการณ์ในการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถเข้าถึงคู่มือ, ชิ้นส่วนแท้ของ Apple และเครื่องมือต่างๆ เหมือนกับที่ใช้ใน Apple Store และผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple
นอกจากนี้ Apple ยังทำให้กระบวนการ System Configuration ซึ่งใช้สำหรับการซ่อมส่วนประกอบ iPhone อย่างจอภาพ แบตเตอรี่ และกล้องนั้น ใช้ง่ายขึ้นด้วย System Configuration เป็นเครื่องมือซอฟต์แวร์หลังการซ่อมที่จะตรวจสอบว่ามีการใช้ชิ้นส่วนแท้ของ Apple ซึ่งผ่านการออกแบบและทดสอบตามมาตรฐานระดับสากล และการซ่อมนั้นดำเนินการอย่างถูกต้องโดยที่ชิ้นส่วนทำงานอย่างที่ควรเป็น เครื่องมือนี้เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีสำหรับผู้ใช้ Self Service Repair ทุกคน รวมถึงผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโปรแกรมการซ่อมของ Apple
เมื่อใช้งาน System Configuration หลังการซ่อมจะมีการตรวจสอบความถูกต้องของชิ้นส่วนแท้ของ Apple รวมถึงอัปเดตเฟิร์มแวร์ และปรับเทียบชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อประสิทธิภาพและคุณภาพสูงสุด ยิ่งกว่านั้น หากเป็นการซ่อมที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันตัวตนแบบไบโอเมตริก เช่น Touch ID หรือ Face ID ซอฟต์แวร์ System Configuration จะลิงก์เซ็นเซอร์ไบโอเมตริกเข้ากับ Secure Enclave บนลอจิกบอร์ดเพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
วันนี้ผู้ใช้ Self Service Repair สามารถเริ่มการทำงานของ System Configuration ได้โดยการทำให้อุปกรณ์เข้าสู่โหมด Diagnostics จากนั้นทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องติดต่อทีมบริการช่วยเหลือของ Self Service Repair เพื่อทำขั้นตอนสุดท้ายของการซ่อม แต่ทีมงานยังคงพร้อมให้ความช่วยเหลือหากจำเป็น
นอกจากนี้ Self Service Repair สำหรับกล้อง True Depth และลำโพงด้านบนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 12 และ iPhone 13 รวมถึงเดสก์ท็อป Mac ที่มีชิป M1 จะพร้อมให้บริการในสหรัฐอเมริกา, เบลเยียม, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, โปแลนด์, สเปน, สวีเดน และสหราชอาณาจักร
Self Service Repair เป็นหนึ่งในความพยายามของ Apple ที่จะขยายการซ่อมให้ผู้อื่นเข้าถึงได้ เนื่องจากการเปิดให้เข้าถึงการซ่อมได้อย่างกว้างขวางนั้นมีส่วนสำคัญในการช่วยยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นเรื่องดีทั้งต่อผู้ใช้และต่อโลกใบนี้ สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ที่ไม่มีประสบการณ์ในการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว การไปพบผู้ให้บริการซ่อมมืออาชีพพร้อมช่างเทคนิคที่ได้รับการรับรองและใช้ชิ้นส่วนแท้ของ Apple เป็นวิธีที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้มากที่สุดในการซ่อม
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา Apple ได้เพิ่มจำนวนสถานที่ให้บริการที่สามารถเข้าถึงชิ้นส่วน เครื่องมือ และการฝึกอบรมที่ Apple ใช้จริงเกือบสองเท่า รวมถึงผู้ให้บริการซ่อมอิสระอีกกว่า 4,500 ราย และมีเครือข่ายผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของ Apple ทั่วโลกกว่า 5,000 ราย คอยให้ความช่วยเหลือช่างเทคนิคที่ปฏิบัติงานอยู่กว่า 100,000 ราย