วิธีแก้เบาะรถเหม็นอับ บอกลากลิ่นไม่พึงประสงค์ในรถยนต์

วิธีแก้เบาะรถเหม็นอับ พร้อมแนะนำการทำความสะอาดเบาะแต่ละประเภท งานนี้รถใครมีกลิ่นหรือกำลังกลุ้มใจกับปัญหานี้อยู่ บอกเลยไม่ควรพลาด !

สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ นอกจากการดูแลทำความสะอาดภายนอกตัวรถแล้ว ภายในห้องโดยสารก็ควรเอาใจใส่ไม่แพ้กัน เพราะถ้าหากปล่อยให้ในรถและเบาะมีกลิ่นเหม็นอับ ก็เท่ากับว่าต้องทนอยู่กับกลิ่นไม่พึงประสงค์ตลอดเวลาที่ใช้รถ และใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ เรามีวิธีแก้มาแนะนำให้ได้ลองนำไปใช้กัน

การที่เบาะรถมีกลิ่นเหม็นอับนั้นเกิดจากสิ่งสกปรก ไม่ว่าจะเป็นคราบเหงื่อไคล ฝุ่นละออง เศษอาหารที่หกเลอะ รวมทั้งกลิ่นต่าง ๆ ที่ติดอยู่บนเบาะรถและฝังแน่น ซึ่งหากปล่อยไว้นานวันเข้าจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่มีน้ำติดรองเท้า เสื้อผ้าที่ชื้นแฉะ ทำให้พรมและเบาะรถเปียกชื้น ส่งผลให้มีกลิ่นเหม็นอับทวีคูณยิ่งขึ้นไปอีก รวมไปถึงเป็นแหล่งรวมของเชื้อโรคต่าง ๆ ที่หมักหมมอยู่อีกด้วย

ก่อนจะไปถึงขั้นตอนวิธีการทำความสะอาดเบาะเพื่อกำจัดกลิ่นเหม็นอับ จะต้องรู้ก่อนว่าเบาะรถของเราเป็นเบาะประเภทไหน เพราะจะมีวิธีการทำความสะอาดที่ต่างกัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเบาะรถยนต์จะแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้ 

1. เบาะหนังแท้

เบาะหนังแท้เป็นเบาะที่ทำมาจากหนังสัตว์หลากหลายชนิด โดยผ่านกระบวนการฟอกและย้อมสี ข้อดีของเบาะหนังแท้จะมีความนุ่มสบาย ไม่มีกลิ่น มีสีสันสวยงาม ส่วนข้อเสียจะอยู่ที่มีราคาแพง นิยมใช้กับรถหรูเกรดพรีเมียม

2. เบาะหนังเทียม

เบาะหนังเทียมจะมีทั้งแบบหนัง PVC หรือโพลีไวนิลคลอไรด์ เรียกกันทั่วไปว่าหนังไวนิล เป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นที่ทำจากพีวีซีเรซิน และหนัง PU ย่อมาจาก Polyurethane เป็นหนังที่ถูกผลิตขึ้นโดยกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้พลาสติก มีความใกล้เคียงกับหนังแท้มาก โดยทั้ง 2 ประเภทนี้เป็นเบาะที่นิยมกันอย่างมาก ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้งานแทนหนังแท้ ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุน มีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย ไม่ซึมซับน้ำ ไม่ค่อยสะสมฝุ่น ส่วนข้อเสียนั้นจะอยู่ที่เมื่อนั่งหรือได้สัมผัสจะรู้สึกถึงความกระด้าง ไม่นุ่ม และสะสมความร้อน

3. เบาะผ้า

เบาะผ้า คือ เบาะที่ทำมาจากวัสดุผ้าชนิดต่าง ๆ ข้อดีคือ มีสีสันที่สวยงาม ถ่ายเทความร้อนได้ดี นั่งทางไกลไม่ลื่นไหล มีราคาที่ถูกกว่าเบาะหนัง ส่วนข้อเสียคือ ตัวเนื้อผ้าจะดักเก็บฝุ่นและเปื้อนง่าย เมื่อเป็นคราบจะติดและฝังลึกทำความสะอาดยาก พร้อมกับดูดความชื้นสูงกว่าเบาะหนัง ที่สำคัญเบาะผ้าจะสะสมกลิ่นอับได้ดี

การทำความสะอาดเบาะรถยนต์แต่ละประเภทนั้นจะมีวิธีและเทคนิคที่แตกต่างกันออกไป จึงต้องเลือกใช้วิธีที่ถูกต้องเพื่อให้กำจัดกลิ่นเหม็นอับได้ผลและไม่ทำให้เบาะรถเสียหาย

1. วิธีทำความสะอาดเบาะหนังแท้

ให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเปล่าบิดหมาดแล้วเช็ดที่เบาะให้ทั่ว ใช้แปรงสีฟันหรือแปรงที่มีขนแปรงนุ่ม ๆ ชุบน้ำยาทำความสะอาดหนังแท้ แปรงบริเวณที่สกปรก หลังจากนั้นให้ใช้ผ้าขนหนูสะอาดเช็ดตาม ทำในส่วนที่สกปรกเป็นจุด ๆ แล้วผึ่งลมให้เบาะแห้ง แล้วใช้น้ำยาเคลือบเบาะหนังทาทั่วทั้งตัวเบาะ 

2. วิธีทำความสะอาดเบาะหนังเทียม

ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเอาเศษผงตามร่องออก แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้าชามัวร์ ชุบน้ำหรือสบู่เหลวในการเช็ดเบาะ โดยชุบน้ำเพียงเล็กน้อย เพราะถ้าเปียกเกินไปจะเกิดความชื้น ทำให้เบาะมีกลิ่นเหม็นอับได้ แต่ถ้าเบาะหนังสกปรกมากให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะหนังขัด โดยจะทำความสะอาดคราบสกปรกที่ซ่อนอยู่ได้ดีกว่าการใช้ผ้าผสมสบู่เช็ด เสร็จแล้วให้เคลือบเบาะหนังด้วยสเปรย์เคลือบดูแลรักษาสภาพหนังเป็นขั้นตอนสุดท้าย

ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้สำหรับรถยนต์โดยเฉพาะ เพราะจะสามารถดูดเศษผงหรือสิ่งสกปรกที่หลบตามซอกมุมเล็ก ๆ ได้ดี ถ้าพบว่าตัวเบาะผ้านั้นมีคราบ ให้ฉีดน้ำยาทำความสะอาดเบาะผ้าแบบบาง ๆ เพราะถ้าฉีดแบบชุ่มเกินไปอาจทำให้ตัวเบาะใต้ผ้าหุ้มขึ้นราหรือเหม็นอับได้ หลังจากนั้นให้นำแปรงมาขัดตรงที่สกปรก แล้วให้ใช้กระดาษทิชชูซับ ซึ่งถ้าหากไม่ใช้ทิชชูซับความเปียกชื้นจะทำให้เบาะผ้าเกิดกลิ่นอับและแบคทีเรียได้ เสร็จแล้วให้ใช้แป้งโรยเพื่อดูดซับความชื้นที่ตกค้างอยู่ที่ผ้าอีกครั้ง แต่ถ้าเบาะผ้านั้นเลอะและสกปรกมาก ควรเข้ารับบริการที่ร้านคาร์แคร์ เพื่อให้ทางร้านถอดเบาะออกมาซักให้จะดีที่สุด

1. ใช้น้ำหอมหรือสเปรย์ดับกลิ่น

เลือกซื้อน้ำหอมสำหรับวางไว้ในรถ หรือซื้อสเปรย์ดับกลิ่นสำหรับภายในรถยนต์ เพื่อนำมาฉีดพ่นดับกลิ่นอับ โดยจะมีให้เลือกใช้หลากหลายกลิ่นตามที่ชอบ

2. ล้างตู้แอร์

หากสำรวจแล้วพบว่ามีกลิ่นออกมาจากแอร์ ปัจจุบันสามารถล้างได้โดยไม่ต้องถอดตู้ บางเจ้ามีการส่องกล้องตรวจเช็กความสะอาดด้วย ค่าบริการราว ๆ 500-1,000 บาท

3. ตากรถกลางแดด

นำรถไปจอดไว้กลางแดดแล้วแง้มกระจก ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อระบายอากาศและกลิ่นอับภายในรถ

4. ใช้ของดับกลิ่นอับ

นำของที่มีคุณสมบัติดูดกลิ่นหรือดูดความชื้นได้มาวางไว้ในรถ เช่น ถ่านหุงต้ม ใบชาตากแห้ง กากกาแฟตากแห้ง หรือเบกกิ้งโซดา อาจใส่กระป๋องพลาสติกเจาะรูพรุนให้ทั่วแล้ววางไว้ในรถ หรือจะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ก็ได้เช่นกัน แต่ควรหมั่นเปลี่ยนบ่อย ๆ ประมาณ 3 วันก็เปลี่ยนทิ้งได้ ส่วนกล่องดูดความชื้นก็สามารถใช้ได้แต่อาจมีราคาแพงสักหน่อย

ทั้งนี้ เนื่องจากเบาะรถแบบผ้าจะมีโอกาสเกิดกลิ่นเหม็นอับได้มากกว่าเบาะแบบหนัง เพราะฉะนั้นรถใครที่เป็นเบาะแบบผ้า อาจใช้ที่หุ้มเบาะแบบหนังแก้ขัดในช่วงหน้าฝน หรือถ้าหากมีกำลังทรัพย์และชื่นชอบในเบาะหนัง จะนำรถไปทำเป็นเบาะหนังแบบถาวรก็ได้เช่นกัน 

ขอบคุณข้อมูลจาก : robbinsnissan.com, goodhousekeeping.com, thespruce.com