BASETONUM

ฟังก์ชั่น BASETONUM จะแปลงเลขที่มีฐานที่ระบุ ให้เป็นเลขฐาน 10

BASETONUM(แปลงสตริง, ฐาน)

แปลงสตริง: ค่าสตริง ที่แทนถึงเลขที่จะถูกแปลง แปลงสตริง ต้องประกอบด้วยตัวเลขและตัวอักษรที่ใช้ในฐานของเลขที่จะถูกแปลงเท่านั้น

ฐาน: ค่าตัวเลข ที่แทนถึงฐานปัจจุบันของเลขที่จะถูกแปลง ฐาน ต้องอยู่ในช่วง 1 ถึง 36

หมายเหตุ

ฟังก์ชั่นนี้จะส่งค่ากลับมาเป็นค่าตัวเลขและสามารถนำไปใช้กับสูตรที่ประกอบด้วยค่าตัวเลขอื่นได้อีกด้วย แอปสเปรดชีตบางตัวจะส่งค่ากลับมาเป็นค่าสตริง

ตัวอย่างเช่น
=BASETONUM("3F", 16) จะส่งค่ากลับมาเป็น 63 ซึ่งเป็นเลขฐานสิบ (ฐาน 10) ที่เทียบเท่ากับเลขฐานสิบหก (ฐาน 16) ที่มีค่า 3F จำเป็นต้องใส่เครื่องหมายอัญประกาศทุกครั้งที่มีตัวอักษรรวมอยู่ใน แปลงสตริง =BASETONUM(1000100, 2) หรือ =BASETONUM("1000100",2) จะส่งค่ากลับมาเป็น 68 =BASETONUM(-1000100, 2) จะส่งค่ากลับมาเป็นข้อผิดพลาด เนื่องจากเครื่องหมายลบไม่ใช่ส่วนประกอบที่ถูกต้องของ แปลงสตริง =-BASETONUM(1000100, 2) จะส่งค่ากลับมาเป็น -68 =BASETONUM(7279, 8) จะส่งค่ากลับมาเป็นข้อผิดพลาด เนื่องจากตัวเลข "9" ไม่ถูกต้องในเลขฐาน 8

ตัวอย่างเช่น

=BASETONUM("3F", 16) จะส่งค่ากลับมาเป็น 63 ซึ่งเป็นเลขฐานสิบ (ฐาน 10) ที่เทียบเท่ากับเลขฐานสิบหก (ฐาน 16) ที่มีค่า 3F จำเป็นต้องใส่เครื่องหมายอัญประกาศทุกครั้งที่มีตัวอักษรรวมอยู่ใน แปลงสตริง

=BASETONUM(1000100, 2) หรือ =BASETONUM("1000100",2) จะส่งค่ากลับมาเป็น 68

=BASETONUM(-1000100, 2) จะส่งค่ากลับมาเป็นข้อผิดพลาด เนื่องจากเครื่องหมายลบไม่ใช่ส่วนประกอบที่ถูกต้องของ แปลงสตริง

=-BASETONUM(1000100, 2) จะส่งค่ากลับมาเป็น -68

=BASETONUM(7279, 8) จะส่งค่ากลับมาเป็นข้อผิดพลาด เนื่องจากตัวเลข "9" ไม่ถูกต้องในเลขฐาน 8

ดูเพิ่มเติมBIN2DEC HEX2DEC NUMTOBASE OCT2DEC

เป็นประโยชน์ไหม

วิธีใช้สูตรและฟังก์ชั่น

BASETONUM

หมายเหตุ